ห้องนั่งเล่นหรือห้องรับแขกเป็นชื่อเรียกของห้อง หรือมุมหนึ่งของบ้านที่มีขนาดกว้างพอดี เพื่อรองรับจำนวนสมาชิกในครอบครัวได้ มีจุดประสงค์เพื่อใช้เป็นสถานที่พักผ่อนส่วนรวม ถือว่าเป็นพื้นที่แต่งบ้านสวยอีกมุมหนึ่ง ที่มักจัดตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์โซฟา โต๊ะ หรือเก้าอี้ขนาดใหญ่ ติดตั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทที่อำนวยความสะดวกต่อการพักผ่อน เสริมด้วยเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทที่ให้ความบันเทิง บางบ้านอาจมีบริเวณหน้าต่างที่ทำให้ต้องคำนึงถึงผ้าม่าน การเลือกปูพรมบริเวณใดบริเวณหนึ่ง แม้กระทั่งการตกแต่งมุมว่างให้เป็นตู้โชว์หรือตู้ปลาสวยงาม ด้วยองค์ประกอบทั้งหมดนี้ จำเป็นต้องได้รับการดูแลทำความสะอาดอยู่เสมอ เพื่อป้องกันการสะสมของฝุ่น ซึ่งถือเป็นการสำรวจของใช้ควบคู่กันไป เพื่อให้ทราบว่าสิ่งไหนชำรุด หรือใกล้เสื่อมสภาพการใช้งาน
เหตุผลที่ควรใส่ใจความสะอาดในห้องนั่งเล่น ?
เพราะภายในบ้านมีสมาชิกหลายช่วงอายุ และร่างกายมนุษย์สร้างภูมิคุ้มกันได้มาก-น้อยแตกต่างกัน ในการใช้งานอุปกรณ์ห้องนั่งเล่นเป็นประจำ ทำให้เกิดการสะสมของเชื้อโรคและแบคทีเรีย แต่ด้วยปัจจัยที่ไม่สามารถมองเห็นเชื้อโรคด้วยตาเปล่า การดูแลรักษาความสะอาดอย่างถูกวิธีจึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่ช่วยยับยั้งการกระจายของเชื้อโรคที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว
วิธีดูแลรักษาความสะอาดของใช้ ของตกแต่ง ห้องนั่งเล่น
1.การทำความสะอาดโซฟาทั่วไป
โซฟาห้องนั่งเล่น เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่มีการใช้งานเป็นประจำจึงทำให้สกปรกได้ง่าย หากต้องการทำความสะอาดเพียงบางจุด สามารถนำผลิตภัณฑ์สเปรย์โฟมอเนกประสงค์ ทำความสะอาดโซฟาผ้าหรือโซฟาหนัง เพียงพ่นสเปรย์ลงบนเบาะ หลังจากนั้นใช้แปรงขนาดเล็กขัดทำความสะอาดจุดที่เกิดคราบ นำผ้าเช็ดให้แห้งก็ทำให้โซฟาสะอาดไร้สิ่งสกปรกได้
แต่ถ้าหากต้องการทำความสะอาดโซฟาผ้าทั้งหมด สามารถใช้เครื่องดูดฝุ่นอย่างน้อย 1ครั้ง/สัปดาห์ หรืออีกหนึ่งวิธีที่สามารถทำได้ง่ายๆในวันหยุด คือ การเลือกใช้ผงทำความสะอาด เช่น Vanish จำนวน 2 ซอง ผสมกับปริมาณน้ำอย่างพอดี ขัดบนโซฟาด้วยแปรงชุบน้ำยาที่ผสมไว้ หลังจากนั้นสามารถใช้ผ้าเปียกเช็ดบนโซฟาต่อเพื่อทำความสะอาดฝุ่นที่เกาะอยู่ และเป่าด้วยพัดลมหรือตากทิ้งไว้จนเบาะแห้งก็สามารถนำมาใช้งานได้ตามปกติ
2.การทำความสะอาดพื้นพรม
ห้องนั่งเล่นพื้นพรม สามารถใช้เครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดอย่างน้อย 1 ครั้ง/สัปดาห์ เพราะพรมถือได้ว่าเป็นของใช้ตกแต่ง นิยมนำมาปูที่พื้นห้องเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ แต่ไม่สามารถใช้ไม้กวาดและไม้ถูพื้นทำความสะอาดได้ตามปกติ ดังนั้นควรมีการดูดฝุ่นอย่างสม่ำเสมอ และเพื่อลดกลิ่นอับของพรม สามารถเปิดหน้าต่างระบายอากาศในห้อง หรือใช้เบคกิ้งโซดาโรยลงบนพรมทิ้งไว้ 10-15นาที
หลังจากนั้นดูดผงเบคกิ้งโซดาออกด้วยเครื่องดูดฝุ่น เพียงเท่านี้พรมที่บ้านก็สะอาดไร้กลิ่นอับ ไม่สร้างความรำคาญให้คนในบ้านอีกด้วย
3.การทำความสะอาดขอบหน้าต่าง มุ้งลวด และบานกระจก
การปัดฝุ่นขอบหน้าต่างสามารถปัดฝุ่นด้วยไม้กวาดขนไก่ หลังจากนั้นใช้ผ้าเปียกชุบน้ำหมาดๆเช็ดทำความสะอาดเพิ่มเติม แล้วจึงใช้หนังสือพิมพ์ขัดน้ำยาเช็ดกระจกบริเวณที่มีส่วนประกอบของกระจก หรือหากไม่มีน้ำยาเช็ดกระจก สามารถใช้หนังสือพิมพ์ชุบน้ำขัดแทนได้เช่นกัน แต่จำเป็นต้องออกแรงและขัดอยู่หลายครั้งจนกระทั่งกระจกใส ส่วนบ้านหลังใดที่หน้าต่างมีการใช้มุ้งลวด ก็ควรถอดออกมาล้างอย่างน้อย 1 ครั้ง/เดือน
เพราะมุ้งลวดเป็นส่วนที่ดักจับเศษฝุ่นชิ้นใหญ่ได้เป็นอย่างดี วิธีทำความสะอาด คือ การนำผงซักฟอกผสมกับน้ำพอประมาณ ใช้แปรงขัดให้สะอาดแล้วจึงฉีดน้ำล้างออก ละทิ้งไว้หรือผึ่งแดดจนแห้งก็สามารถนำกลับไปประกอบใช้งานได้
4.การทำความสะอาดพื้น
ขั้นตอนแรกของการทำความสะอาดพื้น ควรกวาดด้วยไม้กวาดดอกหญ้าหรือดูดฝุ่นก่อนเสมอ หลังจากนั้นจึงจะสามารถทำการถูพื้น ซึ่งอุปกรณ์ที่ใช้ คือ ไม้ถูพื้นชนิดผ้าหรือชนิดฟอง ถังน้ำ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดพื้นและน้ำเปล่า หากเป็นห้องนั่งนั่งเล่นพื้นไม้ สามารถใช้น้ำยาเช็ดเคลือบเงาในการถูพื้น
เนื่องจากสามารถทำความสะอาดได้โดยไม่ทำให้ไม้เกิดรอย ยังช่วยเคลือบเงาพื้นไม้ให้สวยงาม เช่น ผลิตภัณฑ์ ASTONISH แต่หากเป็นห้องนั่งเล่นพื้นกระเบื้อง สามารถถูพื้นด้วยน้ำเปล่าเพื่อกำจัดฝุ่นออก หลังจากนั้นใช้ผลิตภัณฑ์น้ำยาขัดเงาพื้นกระเบื้อง เช่น DYNOWAX แต่อย่างไรก็ตามการถูพื้นอย่างถูกวิธีก็มีความสำคัญอย่างมาก โดยถูจากพื้นมุมด้านหน้าเข้ามาหาตัว เพื่อป้องกันการเกิดรอยเท้านั่นเอง
5.การทำความสะอาดผ้าม่าน
ผ้าม่านมีคุณสมบัติบดบังแสงแดดที่ส่องผ่านเข้ามายังห้องได้ และเป็นอุปกรณ์ตกแต่งบ้านที่ไรฝุ่นชื่นชอบอีกด้วย สามารถทำความสะอาดด้วยการดูดฝุ่นอย่างน้อย 1ครั้ง/สัปดาห์ ถึงแม้ไม่มีเวลาทำความสะอาดก็ควรถอดม่านออกมาผึ่งแดดเพื่อลดกลิ่นอับอยู่เสมอ หรือทำความสะอาดด้วยตัวเองในวันหยุด คือ การนำผ้าม่านซักด้วยเครื่องซักผ้า
ที่สำคัญอย่าลืมตั้งค่าการซักให้เป็นโหมดที่ถนอมผ้าที่สุด ทำการศึกษาชนิดของผ้ากับอุณหภูมิน้ำให้เข้าใจก่อน อย่างน้อยควรซักด้วยตนเองหรือจ้างบริษัททำความสะอาด 1ครั้ง/เดือน เพื่อลดการสะสมของฝุ่น กำจัดกลิ่นอับ และคราบสกปรกที่เกิดจากการใช้งาน
5 เคล็ด(ไม่)ลับที่นำมาบอกเล่าในวันนี้ เป็นการทำความสะอาดห้องนั่งเล่นโดยวิธีง่าย ๆ ทำได้ด้วยตนเอง ซึ่งนอกจากนี้ควรหมั่นทำความสะอาดด้วยการเช็ด และปัดฝุ่นเครื่องใช้ไฟฟ้า เพราะฝุ่นเป็นขยะชิ้นเล็กที่ไม่ควรปล่อยทิ้งจนเกิดการหมักหมม ดังนั้นมิใช่การทำความสะอาดเพียงมุมใดมุมหนึ่งที่สมาชิกในบ้านใช้พื้นที่บ่อย แต่ห้องหรือมุมที่ไม่ค่อยใช้งานก็ควรทำความสะอาดเช่นกัน เป็น วิธีจัดบ้านให้น่าอยู่ และสุขภาพดีที่หาซื้อไม่ได้